รู้จักกับ Disruptive Technology เทคโนโลยีสร้างความพลิกผัน
จะเห็นว่าปัจจุบัน กระบวนการที่เทคโนโลยีใหม่ “disrupt” หรือ “ทำลาย” เทคโนโลยีเดิม ไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่อดีต และจะเกิดขึ้นอีกต่อไปในอนาคต บางคนเรียกกระบวนการนี้ว่า creative destruction หรือการทำลายอย่างสร้างสรรค์ ที่ทำให้โลกมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน มาถึงจุดที่ทำให้รูปแบบการดำเนินชีวิต การประกอบธุรกิจ การทำการเกษตร และ เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และรุนแรง เพราะ เทคโนโลยีใหม่ๆที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตไร้สาย ยานพาหนะไร้คนขับ (Autonomous vehicles) และเทคโนโลยีพันธุกรรมขั้นสูง (advanced genomics) ต่างมีศักยภาพในการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตและการทำงาน
ยกตัวอย่างสิ่งที่ถูก Disrupt หรือถูกทำลายอย่างสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่เห็นได้ชัดเจน คือ CD และ DVD เพลงหรือหนัง ที่กำลังถูก Disrupt ด้วยช่องเพลง ช่องหนัง ที่โหลดฟังได้ง่าย ๆ ในมือถืออย่าง Apple Music, Joox , YouTube และ Netflix เป็นต้น
Disruptive technologies คือ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีที่สร้างตลาด และ มูลค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี และส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อตลาดของผลิตภัณฑ์เดิม รวมทั้งอาจจะทำให้ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ล้มหายตายจากไป ซึ่งต่างจากนวัตกรรมทั่วไปที่อาจจะเพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มคุณภาพของสินค้า หรือลดต้นทุนกระบวนการผลิตแบบเดิม ๆ
โดยในรายงานของ McKinsey Global Institute ได้ระบุเทคโนโลยี 12 ประเภท ที่จะเข้ามามีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงโลก ได้แก่
- อินเทอร์เน็ตไร้สาย (Mobile Internet)
- เทคโนโลยีอัตโนมัติในด้านการวิเคราะห์ (Automation)
- อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things)
- การประมวลผล (Cloud Computing)
- เทคโนโลยีหุ่นยนต์ (Robotics)
- ยานพาหนะไร้คนขับหรือกึ่งไร้คนขับ (Vehicles)
- เทคโนโลยีชีวภาพ (genomics)
- อุปกรณ์หรือระบบกักเก็บพลังงาน (Storage)
- เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ (3D Printing)
- เทคโนโลยีวัสดุชาญฉลาด (Materials)
- เทคโนโลยีสำรวจและขุดเจาะน้ำมัน (Oil and Gas)
- เทคโนโลยีพลังงานทดแทน (Renewable)
การใช้เทคโนโลยีทั้ง 12 ประเภทดังกล่าว จะสามารถทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และเกิดการประยุกต์ใช้ในทุกอุตสาหกรรม เช่น การควบคุมเครื่องจักรและเครื่องยนต์ที่ชาญฉลาด (machine intelligence), เครือข่ายเว็ปเคลื่อนที่ (ubiquitous web), โมบายบรอดแบนด์ (Mobile Broadband) และยานพาหนะไร้คนขับ (unmanned vehicles) ไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่สามารถแปลภาษาได้ทุกภาษา โดยเทคโนโลยีที่เหล่านี้จะทำให้มนุษย์เข้าถึงการศึกษา และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนเชื่อว่า จะทำให้เกิดการสร้างงานอย่างมหาศาล และในทางกลับกันก็จะทำลายตำแหน่งงานรูปแบบเดิมด้วย
อย่างที่เราทราบกันว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่มีวันหยุดนิ่ง เกิดการพัฒนา มีความก้าวหน้าตลอดเวลา การที่จะเกิดเป็น Disruptive Technology กับเราหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่า ผู้ถูกกระทบปรับตัวได้ดีเพียงไร สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราพัฒนาไปพร้อมกับความก้าวหน้าเหล่านี้ได้ คือการมีทัศนคติที่เป็นบวกว่า โอกาสหรือการพัฒนาเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะมาทำลาย และให้ทำตัวพร้อม เพื่อนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาปรับใช้งานให้เหมาะสม.
.
.
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น